วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Ghost of Mirach หรือ NGC 404

Ghost of Mirach หรือ NGC 404

คือกาแล็คซี่ ประเภท Lenticular (ดาราจักรคล้ายเลนซ์ ) สำรวจพบโดย William
Herschel เมื่อ ค.ศ.1784 อยู่บริเวณขอบ Local Group (กลุ่มกาแล็คซีเพื่อนบ้าน)
โดยยังไม่ทราบว่ามีระบบผูกมัดแรงดึงดูดระหว่างกัน (Gravitationally bound)
กับทางช้างเผือกหรือไม่ โดยมีระยะทางห่างจากโลกราว 3.6 พันล้านปีแสง

แท้จริงแล้วเป็นกาแล็คซี่แบบกังหัน แต่สั้นกว่าไม่มีลักษณะขดเป็นวงแบบกังหัน
ส่วนแผ่นจาน (Disk) ดูนุ่มนวล (Smooth) เนื่องจากมีการหยุดพัฒนารูปแบบของ
ดวงดาวมานาน เหตุผลมวลพลังงานใช้ไปเกือบหมดสิ้น เป็นเงื่อนไขการ เกิดขึ้น
จากองค์ประกอบ (ของกาแล็คซี่แบบกังหัน) จะเต็มไปด้วย กลุ่มดาวเก่าแก่ (Old Stars) มีกระจุกดาวแบบทรงกลมบริเวณกระเปาะ จะเห็นมวลรัศมี แสงกระจาย
วงกลมเด่นชัดอยู่ตรงกลาง เมื่อมองจากระยะไกลเป็นส่วนใหญ่

หากจะสังเกตกาแล็คซี่ ลักษณะคล้ายเลนซ์เกือบไม่แตกต่าง กับกาแล็คซี่รูปไข่
เมื่อมองจากโลกในระยะไกล นั้นเป็นความเข้าใจเดิมของ NGC 404
 
 
ภาพถ่าย Ghost of Mirach (NGC 404) จากโลก
 
 
Andromeda constellation
 
 
กาแล็คซี่ปีศาจ (หรือเงาภูตวิญญาน) Mirach

การถูกเปิดเผย NGC 404 ในชื่อว่า Ghost of Mirach (อ่านว่า mi-rak) มีนัยความ
หมาย เดิมในภาษา Arabic ว่า Loincloth (ผ้าเตี่ยว) หรือ Girdle (ผ้าพันคาดล้อม
ลำตัว) อาจแปลรวมกัน ให้ความหมายว่า เงาปีศาจหรือเงาภูตวิญญาญ ที่แต่งร่าง
ด้วย ผ้าเตี่ยวพันกาย (แบบกรีก)

แต่ความหมายจริงๆ นักดาราศาสตร์ มิได้เจตนาให้เกิดความน่ากลัว ในเรื่องชื่อที่
ตั้งขึ้น เพราะ Ghost of Mirach มองเห็นเป็นเพียงเงาสลัวรางเลือนมาก ด้วยความ
ที่มีตำแหน่งบนท้องฟ้า อยู่แนวใกล้ด้านหลังของ Beta Andromedae (มีอีกชื่อว่า
Mirach ระยะทางห่างจากโลก 200 ปีแสง) โดย Ghost of Mirach มีระยะห่าง
จากโลกลึกออกไปใกล้ นับล้านปีแสงอยู่เบื้องหลัง

จึงเปรียบเหมือนว่าดาวที่สุกใส Beta Andromedae (Mirach) มีเงาทอดยาวไกล
ออกไปเป็น Ghost of Mirach (NGC 404) และตำแหน่งของ Beta Andromedae
(Mirach) อยู่บริเวณชายผ้าพันกายของ หมู่ดาวAndromedae (ที่เป็นภูตวิญญาน)
ทั้งนี้การตั้งชื่อดาว เกือบทั้งหมดถูกตั้งในครั้นโบราณ ชื่อจึงมักเกี่ยวข้องกับเทพ
เจ้า ภูตวิญญาน หรือเรื่องเล่าประรำประรา ให้ฟังดูน่ายำเกรง
 
 
ภารสำรวจจากทางภาคพื้นดิน โดย National Radio Astronomy Observatory (NRAO)
 
 
คำเฉลยใหม่ สำรวจพบโดย NASA's Galaxy Evolution Explorer
 
 
เจาะทะลุผ่านรังสี พบดาวใหม่ ล้อมเป็นวงแหวน

การสอดแหนมเข้าไปใน Ghost of Mirach (NGC 404) เต็มไปด้วยแสงสะท้อน
ของรังสี Ultraviolet พบปรากฎที่น่ากลัว กำลังแสดงความหายนะของกาแล็คซี่
แต่กลับพบกลุ่มดาวใหม่ (New stars) จำนวนมากกำลังก่อตัวอย่างเป็นระบบ
โดยรอบ น่าจะนับเป็นประเภท Hybrid galaxy (กาแล็คซีแบบพันทางลูกผสม)

มีเรื่องราวเคยบันทึก ทางดาราศาสตร์ ในรายงานว่า เป็นพฤติกรรมเช่นนี้เป็นที่
รู้จักดีของ ในกลุ่มดาวเก่าแก่มากๆ ได้เช่นกัน

ด้วยสาเหตุจากโครงการ Galaxy Evolution Explorer ได้เปลี่ยนการค้นหาแบบ
ใหม่ มุ่งสำรวจท้องฟ้าเข้าไปในแสง Ultraviolet ด้วย Ultraviolet telescopes ใน
อวกาศ ต่างจากการสำรวจแบบเดิมบนพื้นโลกของ National Radio Astronomy Observatory (NRAO) ซึ่งใช้คลื่นวิทยุ ไม่สามารถเจาะผ่านแสงสะท้อนของรังสี
Ultraviolet เข้าไปได้

การสำรวจของ Galaxy Evolution Explorer ได้แสดงให้เห็นข้อมูลใหม่พบโครง
สร้างรอบๆภายในกาแล็คซี ฟุ้งกระจายไปด้วยความสว่างจ้า และมีกลุ่มดาวใหม่
ล้อมรอบเป็นวงแหวน (Ring of stars) เป็นภาพที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน

เพราะเดิมถูกบดบังด้วยแสงจ้าจัดของ Red giant star (ดาวยักษ์สีแดง) ด้วย
จึงยากต่อ สำรวจจากพื้นโลก ปัญหาที่สงสัยคือ อะไรที่ทำให้ Ultraviolet ring
(วงแหวนรังสีอุตร้าไวโอเลท) เป็นลักษณะกลุ่มมวลไม่ทราบจำพวกที่แท้จริงมี
อยู่รอบๆ NGC 404 สะท้อนออกมาให้เห็นเช่นในประเภท Lenticular galaxy
(ดาราจักรคล้ายเลนซ์)

จากการสำรวจภาคพื้นดินข้อมูลเดิม ด้วยคลื่นวิทยุจากโลก ระบุว่าพบกลุ่มก็าซ
Hydrogen ล้อมรอบสอดคล้องกับการสำรวจใหม่ พบว่ารอบเขตมีรังสี Ultraviolet

การวิเคราะห์มีเหตุผลว่าเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัว ของวงแหวนของก๊าซ จากเกิด
การชนกันอย่างรุนแรง ของ NGC 404 กับกาแล็คซีขนาดเล็ก ในบริเวณใกล้เคียง
เมื่อ 900 ล้านปีที่แล้ว จึงเกิดรังสี Ultraviolet สะท้อนแสงกระจายบดบัง NGC 404
ทั่วอาณาเขต ปกปิดดาวที่อยู่ภายในทำให้มองไม่เห็น จนกระทั้งการสำรวจใหม่นี้
 
 
ภาพถ่ายการสำรวจเดิม พบว่าถูกบังด้วยแสง ดาวยักษ์สีแดง Mirach
 
 
ภาพใหม่สามารถถ่ายผ่านรังสี มองเห็นกลุ่มดาวใหม่ (สีน้ำเงิน) ล้อมรอบ Ghost of Mirach
 
 
รอบกาแล็คซี่ พบ วงแหวนก๊าซ
 
20
เหตุการฟื้นคืนชีพของ Ghost of Mirach

การสำแดง Ultraviolet นั้นเกิดจาก Hydrogen เดิมที่มีอยู่ด้วยเหตุการชนปะทะกัน
ของ Lenticular galaxy ดาวจึงก่อตัวในวงแหวนดังกล่าว เหตุผลสำคัญดาวที่อายุ
น้อยมีความสัมพันธ์ กับรูปแบบความร้อนต่อการก่อตัว ในแหล่งเอื้อการกำเนิดดาว
(Stellar clusters) มีทั่วไปในจักรวาล ตลอดทั้งหมดในวงแหวนปิดของ NGC 404

ก่อนหน้านี้เชื่อว่าในกาแล็คซี NGC 404 มีดาวสีแดง (Red stars) เก่าแก่มากและ
มีจำนวนมาก จึงแสดงขอบแสงเรืองออกมาเป็นรูปไข่ (Elliptical shape) ด้วยอายุ
ที่มากเพียงประเด็นเดียว ไม่ใช่ด้วยลักษณะการพัฒนาการตัวเองที่ยาวนาน

อย่างไรก็ตามการมองเห็นภาพใหม่ขณะนี้ เปรียบเหมือนการคืนชีพกลับมาของ
กาแล็กซี่ โดยมีดาวใหม่เกิดขึ้นในอ้อมอก นับเป็นความโชดดีของระบบภายใน
กาแล็คซี่ ความกระปี้กระเปร่าของมวลพลังงาน เป็นหนุ่มสาวขึ้นอีกครั้ง เปรียบ
เช่น ปีศาจแวมไพร์ (Vampire) คืนชีพในนวนิยาย ตามความเชื่อของชาวยุโรป
มิฉะนั้น จะเป็นหนการรวมตัวไปสู่ กาแล็คซีแคระได้

การค้นพบดังกล่าว ปรากฎความไม่สมบูรณ์ในประเภท Lenticular galaxies ของ
Ghost of Mirach แต่การสืบเนื่องก่อตัวดาวไปอย่างช้าๆ ทีละน้อยตามกฎเกณฑ์
แห่งธรรมชาติจักรวาล จากก๊าซของดวงดาว ขยายตัวไปสู่ขอบเขตของกาแล็คซี่
และใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ โดยมีข้อมูลใหม่ขนาดกว้าง ของกาแล็คซี 55,000 ปีแสง
มีระยะทางห่างจากโลก 11 ล้านปีแสง (ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้)
 
 
ข้อสรุปใหม่อีกประเด็น มีระยะทางห่างจากโลก 11 ล้านปีแสง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น